
ประกันสุขภาพ Top Up
ทางเลือกเสริมประกันกลุ่มเหมาจ่ายคุ้มแบบ All In One
เบี้ยประหยัดกว่าถึง 13.4%
จุดเด่นของประกันสุขภาพเหมาจ่าย
แผน Top Up 100,000 บาท



รายละเอียด
หนึ่งในแผนประกันสุขภาพเหมาจ่ายแบบ All In One ออกแบบมาพิเศษเพื่อพนักงานผู้มีประกันสุขภาพกลุ่มโดยเฉพาะ ด้วยความคุ้มครองแบบเหมาจบทุกค่ารักษาทั้งจากโรคภัยและอุบัติเหตุ ดูแลครบทั้ง IPD และ OPD ช่วยเสริมเติมเต็มกับประกันกลุ่มที่คุณมีอยู่ให้ยิ่งอุ่นใจ เจ็บป่วยเมื่อไรไม่กระทบการเงิน ไร้กังวลค่าใช้จ่ายส่วนเกินอย่างแท้จริง พิเศษอีกขั้นกับส่วนลดค่าเบี้ยถึง 13.4% และหากชำระรายปียิ่งประหยัดได้อีก 10% ชำระผ่านบัตรเครดิตยิ่งพิเศษกับความคุ้มครองเพิ่มเติมและโปรฯมากมายจากธนาคารชั้นนำ
มีประกันกลุ่มแล้ว ทำไมยังต้องมีแผน Top Up?
- ประกันกลุ่มมีวงเงินจำกัด เสริมด้วยแผน Top Up
เหมาจ่ายจบ ไร้กังวลเรื่องค่ารักษา ไม่จำกัดวงเงินต่อครั้ง[2] - ค่าเบี้ยสุดประหยัดกว่าทุกแผนถึง 13.4% เริ่มเพียงวันละ 25 บาท[4]
หากคุณมีบัตรประกันพนักงานที่คือโอกาสที่พลาดไม่ได้ - คุ้มครองเต็มกว่า 100 อาการ โรคเล็ก โรคร้าย เรื้อรัง รุนแรง โรคอุบัติใหม่ และอุบัติเหตุ
- รวมความคุ้มครอง CT Scan เบ็ดเสร็จ
- ไม่ต้องสำรองจ่าย[5] ด้วยเครือข่าย รพ.เอกชนชั้นนำกว่า 400 แห่งทั่วไทย
- ซื้อเดี่ยวได้ ไม่ต้องพ่วงประกันชีวิต
- เคลมไวใน 15 นาที[6]
- แบ่งชำระ 0% ทุกธนาคาร[7]
- ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท ตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร[8]
ดูรายละเอียดและเงื่อนไขฉบับเต็ม คลิก
สิทธิพิเศษก็มี ช่วย SAVE ได้อีกหลายต่อ
- แลกฟรี! ตรวจสุขภาพกับ GENERALI 365 มูลค่า 5,000 บาท
- โปรฯชำระผ่านบัตรเครดิต ผ่อนสบาย 0% พร้อมเครดิตเงินคืน[7]
- เพิ่มฟรี! ความคุ้มครองด้านทันตกรรมและค่าจ้างพยาบาลพิเศษ
เมื่อสมัครแผน All In One โดยชำระค่าเบี้ยแบบรายปีหรือด้วยบัตรเครดิต - SAVE 10% เมื่อชำระแบบรายปี[9]
เงื่อนไข
เงื่อนไขของประกันสุขภาพเหมาจ่าย Gen Health Lump Sum
[1] ส่วนลดค่าเบี้ย 13.4% สำหรับผู้สมัครทำประกันที่มีประกันสุขภาพกลุ่มหรือสวัสดิการประกันสุขภาพพนักงานที่ยังมีผลบังคับใช้เท่านั้น โดยประกันอุบัติเหตุแบบกลุ่มหรือประกันสังคมจะไม่ได้รับส่วนลดนี้
[2] เงื่อนไขเป็นไปตามแผนคุ้มครอง และข้อกำหนดของกรมธรรม์ที่สมัคร และการพิจารณาของบริษัท
[3] เฉพาะแผน All In One (IPD+OPD) ที่ชำระค่าเบี้ยแบบรายปีหรือผ่านบัตรเครดิต รับความคุ้มครองทันตกรรมและค่าพยาบาลพิเศษเพิ่มเติม
[4] ตัวอย่างข้างต้นคำนวณจากลูกค้าอายุ 31-35 ปี แผน All In One (Top Up) 100,000 บาท
[5] เงื่อนไขที่กำหนดเกี่ยวกับการบริการพิเศษสำรองจ่ายเป็นเพียงบริการเสริมของบริษัทที่ทำไว้กับโรงพยาบาลในเครือข่ายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ท่านไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล ยกเว้นบางกรณี เช่น อาการเจ็บป่วยเข้าข้อยกเว้นของกรมธรรม์ หรือโรคที่เป็นมาก่อนสมัครทำประกันภัย หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยซึ่งเป็นไปตามการพิจารณาของบริษัท โดยขอสงวนสิทธิ์ให้ผู้เอาประกันภัยทำการสำรองจ่าย เช่น กรณีรักษาในโรงพยาบาลนอกเครือข่าย หรือ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย หรือข้อมูลการเจ็บป่วยไม่ชัดเจน หรือเข้าข้อยกเว้นของกรมธรรม์
[6] ระยะเวลาดำเนินการเคลม ขึ้นอยู่กับขั้นตอนของแต่ละโรงพยาบาล
[7] เงื่อนไขเป็นไปตามข้อกำหนดของธนาคารผู้ออกบัตร
[8] สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ สำหรับค่าเบี้ยประกันภัยสุขภาพตามจำนวนที่จ่ายจริง (เฉพาะในส่วนความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอันเนื่องจากการเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บ) สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันภัยคุ้มครองชีวิต ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี โดยเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของกรมสรรพากร
[9] ค่าเบี้ยรายเดือนสูงกว่า 10% ของค่าเบี้ยรายปี ยกเว้นค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับอายุ 6-15 ปี
– อายุรับประกันภัย ได้แก่ 6 – 65 ปี และอายุ 66 – 70 ปี กรณีต่ออายุเท่านั้น
– ทั้งนี้ผู้ทำประกันจะต้องไม่เป็นโรคประจำตัว เรื้อรัง ร้ายแรงมาก่อนสมัครทำประกันภัย
– รายละเอียดความคุ้มครอง ข้อยกเว้น / ผลประโยชน์การรักษาและการจ่ายผลประโยชน์ เป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
– การพิจารณารับประกันภัย ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของ บมจ. เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์)
– ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครอง ข้อกำหนดเงื่อนไข ข้อยกเว้น และผลประโยชน์ จากกรมธรรม์ และผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
เงื่อนไขที่กำหนดเกี่ยวกับการชำระเบี้ยประกัน
1. กรมธรรม์นี้เป็นกรมธรรม์ประกันภัยแบบรายปี โดยการชำระเบี้ยประกันภัยจะเป็นแบบแบ่งจ่ายรายงวด โดยผู้เอาประกันภัยสามารถเลือก การแบ่งชำระเบี้ยประกันภัยเป็นแบบราย 3 งวด 4 งวด หรือ 6 งวด เท่า ๆ กัน กรณีลูกค้าชำระเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ความคุ้มครองจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง กรณีลูกค้าขาดการชำระเบี้ยประกันภัยตามงวดที่เลือก เงื่อนไขให้เป็นไปตามข้อ 2. การชำระเบี้ยประกันภัย และการให้ความคุ้มครอง
2. การชำระเบี้ยประกันภัย และการให้ความคุ้มครอง
2.1 เบี้ยประกันภัยของงวดแรกต้องชำระทันที และชำระต่อเนื่องกันไปทุกงวด ภายในระยะเวลาตามรายงวดที่เลือก
2.2 ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยไม่ได้ชำระเบี้ยประกันภัยงวดแรกตามข้อ 2.1 ให้ถือว่ากรมธรรม์ประกันภัยนี้ไม่มีผลบังคับ
2.3 กรมธรรม์นี้มีระยะเวลาการผ่อนผันการชำระเบี้ย 30 วัน นับจากงวดล่าสุดที่ถึงรอบการชำระเบี้ย โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับสิทธิ์การผ่อนผันการชำระเบี้ยเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
2.4 หากผู้เอาประกันภัยไม่ชำระเบี้ยประกันภัยหรือชำระไม่ครบถ้วนตามงวดการชำระ ภายในระยะเวลารายงวดที่เลือก รวมระยะเวลาผ่อนผันตามข้อ 2.3 ให้ถือว่ากรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวจะสิ้นสุดโดยอัตโนมัติ ณ วันสุดท้ายที่กรมธรรม์มีผลคุ้มครองตามค่าเบี้ยประกันภัยที่ได้ชำระแล้ว
3. กรณีที่ผู้เอาประกันภัยมีการเรียกร้องผลประโยชน์ (เฉพาะการสูญเสียชีวิต, ทุพพลภาพถาวร) ก่อนที่จะชำระเบี้ยประกันภัยครบทุกงวด บริษัทจะหักเบี้ยประกันภัยของเดือนที่ค้างชำระอยู่ออกจากผลประโยชน์ดังกล่าวข้างต้นที่ผู้ได้รับความคุ้มครองจะได้รับ จากนั้นกรมธรรม์ประกันภัยเป็นอันสิ้นสุดความคุ้มครอง
4. การสิ้นผลบังคับตามกรมธรรม์
4.1 กรณีผู้เอาประกันภัยไม่ชำระค่าเบี้ยประกันภัยตามข้อ 2 กรมธรรม์ประกันภัยจะสิ้นสุดโดยอัตโนมัติ โดยจะมีผลบังคับจนถึงวันสุดท้ายที่กรมธรรม์มีผลคุ้มครองตามค่าเบี้ยประกันภัยที่ได้ชำระแล้ว ทั้งนี้บริษัทฯ จะบอกกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วันเป็นหนังสือให้ผู้เอาประกันภัยทราบถึงวันสุดท้ายที่กรมธรรม์มีผลบังคับ โดยความคุ้มครองได้เกิดขึ้นแล้วนับแต่วันที่กรมธรรม์มีผลคุ้มครอง และต่อเนื่องจนถึงเวลาที่ผู้เอาประกันภัยไม่ได้ชำระค่าเบี้ยประกันภัย ดังนั้นบริษัทจะไม่คืนเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย
4.2 การสิ้นผลบังคับตามกรมธรรม์ประกันภัย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยฝ่ายใดก็ตาม ต้องเป็นการสิ้นสุดความคุ้มครองทั้งฉบับเท่านั้น ไม่สามารถเลือกการสิ้นผลบังคับข้อตกลงคุ้มครองเพียงหมวดใดหมวดหนึ่งได้ ส่วนเงื่อนไขสัญญาประกันภัยและข้อยกเว้นอื่น ๆ ในกรมธรรม์ประกันภัย คงใช้บังคับตามเดิม